เล่มทะเบียน หรือสมุดคู่มือประจำตัวรถ เอกสารสำคัญที่เปรียบได้กับบัตรประชาชนของรถ โดยจะมีทั้งหมด 2 สี ได้แก่
1. สีฟ้า สำหรับรถยนต์
2. สีเขียว สำหรับรถจักรยานยนต์
ภายในเล่มทะเบียนจะระบุถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวรถเอาไว้ เช่น ชื่อผู้ครอบครอง, ยี่ห้อ, ชื่อรุ่น, หมายเลขเครื่อง, หมายเลขตัวถัง, การเสียภาษี และประวัติการโอนต่าง ๆ
เล่มทะเบียนรถเป็นสิ่งที่ควรติดไว้ในรถอยู่เสมอ เพื่อแสดงถึงความเป็นเจ้าของรถในกรณีถูกเรียกตรวจ หรือเกิดปัญหาป้ายทะเบียนชำรุด สูญหาย สามารถใช้เล่มทะเบียนหรือสมุดคู่มือชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยสามารถใช้ตัวจริงหรือสำเนาได้เช่นกัน
หากเล่มทะเบียนรถหรือสมุดคู่มือรถหาย มีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้
1. แจ้งความ
รีบแจ้งความที่สถานีตำรวจให้เร็วที่สุด เพราะเล่มทะเบียนหรือสมุดคู่มือนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ หากตกไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพอาจถูกปลอมแปลงหรือนำไปใช้กระทำการที่ผิดกฎหมายได้
2. เตรียมเอกสารขอเล่มทะเบียนใหม่
จัดเตรียมเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ เพื่อทำการยื่นขอเล่มทะเบียนใหม่ที่กรมการขนส่งทางบก ได้แก่ ใบแจ้งความ, บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาของเจ้าของรถ, หนังสือมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถไม่สามารถไปดำเนินการได้)
3. ยื่นเอกสารคำร้อง
เมื่อเตรียมหลักฐานพร้อมแล้วให้ไปติดต่อสำนักงานขนส่งพื้นที่ที่รถคันดังกล่าวแจ้งจดทะเบียนใช้งานไว้ รอการตรวจสอบเอกสาร โดยในกรุงเทพมหานครมีสำนักงานขนส่งทั้งหมด 5 เขตด้วยกัน ได้แก่
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 1 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 2 ถนนสวนผัก ตลิ่งชัน
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 3 ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 4 ถนนสุวินทวงศ์ หนองจอก
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 5 ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร
ส่วนต่างจังหวัดสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานขนส่งประจำจังหวัดนั้น ๆ
4. จ่ายค่าธรรมเนียม รอรับเล่มทะเบียน
ปัจจุบันการขอรับเล่มทะเบียนใหม่นั้นจะใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมคำขอ 5 บาท และค่าใบแทนสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 50 บาท และจะมีตราประทับว่า “ออกแทนเล่มที่สูญหาย” มาให้ด้วย
ทั้งนี้ แม้การติดต่อขอรับเล่มทะเบียนใหม่หากเกิดการสูญหายจะไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากเท่าไรนัก แต่ทางที่ดีเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ควรเก็บรักษาเล่มทะเบียนหรือสมุดคู่มือรถไว้ในที่ที่มองเห็นหรือเป็นหลักแหล่งชัดเจน ไม่ควรย้ายที่บ่อย เพราะถือเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ในการดำเนินการเสียภาษี ต่อ พ.ร.บ. หรือการซื้อ-ขายรถอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : dlt.go.th และ car.kapook