หน้าแรก / บริการอื่นๆ / รถใช้เกิน 100,000 กม. ควรตรวจเช็ก เปลี่ยนอะไหล่ส่วนไหนเป็นพิเศษ?
บริการอื่นๆ
รถใช้เกิน 100,000 กม. ควรตรวจเช็ก เปลี่ยนอะไหล่ส่วนไหนเป็นพิเศษ?
รถใช้เกิน 100,000 กม.
ควรตรวจเช็ก เปลี่ยนอะไหล่ส่วนไหนเป็นพิเศษ?
 
อายุการรับประกันของรถยนต์ในปัจจุบันที่มาพร้อมกับรถใหม่ป้ายแดงจะอยู่ที่ 3 ปี หรือ 100,000 กม. (กรณีไม่มีการซื้อแพคเกจขยายเวลารับประกัน) ด้วยระยะทางดังกล่าวถือว่ารถคันนั้นผ่านการใช้งานมาพอสมควร อะไหล่ชิ้นส่วนต่าง​ ๆ ย่อมมีการสึกหรอชำรุด แล้วเราควรตรวจเช็กที่อะไหล่ส่วนไหนของรถเป็นพิเศษบ้าง มาดูกันค่ะ
 
1. ยาง
ปกติแล้วเราควรตรวจเช็กยางรถยนต์ในระยะทุก​ ๆ 5,000 กม. หรือทุก​ ๆ 6 เดือน แต่ถ้ายางยังมีดอกและรีดน้ำได้ปกติไม่มีความเสียหายก็ยังไม่ต้องเปลี่ยน แค่สลับยางก็เพียงพอ โดยเฉลี่ยแล้วอายุการใช้งานของยางจะอยู่ที่ 70,000 – 100,000 กม. ถือเป็นตัวเลขอายุการใช้งานที่ควรเปลี่ยน
 
2. ระบบของเหลวในรถ
น้ำมันเบรก, น้ำมันเกียร์, น้ำมันพาวเวอร์, น้ำมันเครื่อง, น้ำยาหล่อเย็น, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันคลัช ทั้งหมดนี่คือระบบของเหลวที่จำเป็นกับรถ
 
3. หม้อน้ำ
ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นส่วนที่สำคัญ ควรตรวจเช็กการทำงานของหม้อน้ำทั้งระบบ ครีบระบายความร้อน, พัดลมไฟฟ้า, วาล์วน้ำ, ฝาหม้อน้ำ, น้ำในถังพักน้ำ
 
4. สายพานไทม์มิ่ง
สายพานไทม์มิ่ง หรืออีกชื่อที่รู้จักกันดี สายพานราวลิ้น หากเกิดขาดขึ้นมาอาจทำให้ก้านสูบหัก ลูกสูบแตก และวาล์วคดงอ อายุการใช้งานของสายพานไทม์มิ่ง จะอยู่ที่ 100,000 กม. หรือสามารถเปลี่ยนก่อนได้หากรู้สึกว่าสายพานไทม์มิ่งเริ่่มมีรอยแตกร้าว
 
5. ท่อน้ำทั้งระบบ
ท่อยางหม้อน้ำบน-ล่าง เนื่องจากต้องทำงานกับอุณหภูมิที่ร้อนและมีแรงดันสูง จึงทำให้มีการชำรุดกรอบได้ง่าย
 
6. ระบบช่วงล่าง
ควรตรวจเช็กยางหุ้มเพลาขับ, ลูกปืนล้อหน้าเเละหลัง, ผ้าเบรกกับจานเบรก, ลูกหมากต่าง​ ๆ
 
7. แบตเตอรี่
ปกติแบตรถมีอายุการใช้งานราว 2 ปี ต้องมีการเปลี่ยนก่อนระยะ 100,000 กม.อยู่แล้ว ลองตรวจเช็กดูอีกครั้งว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่อีกครั้งหรือไม่
 
8. หัวเทียน
หากรู้สึกว่าเครื่องยนต์มีอาการสะดุด หรือเดินไม่เรียบก็ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนหัวเทียน
 
9. ไส้กรองอากาศ / ไส้กรองแอร์
ปกติควรหมั่นทำความสะอาดเปลี่ยนกรองอากาศทุก​ ๆ 5,000 กม. และควรเปลี่ยนทุก​ ๆ 20,000 กม. เพราะหากไส้กรองอากาศอุดตันจะส่งผลเสียต่อการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ปกติ ขณะที่ไส้กรองแอร์ควรเปลี่ยนทุก 20,000 กม. ดังนั้น เมื่อครบระยะหนึ่งแสนกิโล ก็ควรจับเปลี่ยนอีกครั้ง เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของคนที่ต้องใช้รถทุกวัน
    
        นี่เป็นเพียงชิ้นส่วนเบื้องต้นที่จำเป็นต้องมีการตรวจเช็กเท่านั้น ดังนั้น หากรู้สึกว่าเกิดความผิดปกติใด​ ๆ ก็ควรรีบนำรถไปแก้ไขให้เร็วที่สุด ปัญหาจะได้ไม่บานปลายนะคะ
ขอบคุณที่มาแหล่งความรู้ : toyotathajean
 
 
       และหากต้องการคุ้มครองรถให้มากกว่าเดิมแนะนำให้มีประกันอะไหล่รถยนต์ AsiaCare Warranty ไว้ เพราะการซ่อมได้มาตราฐานเนื่องจากให้เข้าซ่อมที่ศูนย์บริการเท่านั้น เปลี่ยนอะไหล่แท้จากศูนย์บริการโดยตรง
  • ค่าเบี้ยเริ่มต้น 8,300/ปี เท่านั้น
  • ผ่อนได้ 0% 3 เดือน
 
 

สนใจสอบถาม

ประกันอะไหล่รถยนต์ AsiaCare Warranty 

LINE : @asiacarewarranty (มี@)

โทร : 02-656-9477 ต่อ 101