หน้าแรก / บริการอื่นๆ / เอกสารต่อใบขับขี่ 2565 ใช้อะไรบ้าง และขั้นตอนการต่อใบขับขี่
บริการอื่นๆ
เอกสารต่อใบขับขี่ 2565 ใช้อะไรบ้าง และขั้นตอนการต่อใบขับขี่

       การต่ออายุใบขับขี่ เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ เนื่องจากในปัจจุบันใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพนั้นถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงใบขับขี่แบบชั่วคราว (2 ปี) และแบบ 5 ปี มาอัปเดตกันสักหน่อยดีกว่าว่า "เอกสารต่อใบขับขี่ปี 2565" จะต้องเตรียมเอกสารใดบ้าง และมีค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่ ทั้งหมดเท่าไหร่

การต่ออายุใบขับขี่ จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

เอกสารที่ต้องใช้ต่อใบขับขี่ ชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

  1. ใบขับขี่ชั่วคราวอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี

  2. บัตรประชาชนฉบับจริง

  3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน 

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่จากชนิดชั่วคราว (2 ปี) เป็น 5 ปี

  1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

    วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

  2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ประกอบไปด้วย

    2.1 ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ

    2.2 ทดสอบสายตาทางลึก

    2.3 ทดสอบสายตาทางกว้าง

    2.4 ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ

  3. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่

  4. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท 

หมายเหตุ: ผู้ขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน หรือ 2 เดือน หากขาดต่ออายุใบขับขี่ กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ หากสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการอบรม, ทดสอบข้อเขียน และทดสอบขับรถ

การต่ออายุใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

เอกสารที่ต้องใช้ต่อใบขับขี่ ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

  1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน

  2. บัตรประชาชนฉบับจริง 

  3. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

ปี 2565 กรมขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการอบรมใบอนุญาติขับรถผ่านระบบ e-Learning ที่เว็บไซต์ https://dlt-elearning.com/

  1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

    วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

  2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

    2.1 ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
    2.2 ทดสอบสายตาทางลึก
    2.3 ทดสอบสายตาทางกว้าง
    2.4 ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ

  3. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่

  4. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท 

หมายเหตุ: ผู้ขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน หากขาดต่ออายุใบขับขี่ กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ หากสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการทดสอบข้อเขียน, การสอบขับรถ และใบรับรองแพทย์ที่ขอไว้ไม่เกิน 1 เดือน

 

วิธีทำใบขับขี่ใหม่ 2565 (รถจักรยานยนต์ / รถยนต์) เอกสารที่ต้องใช้ทำใบขับขี่ใหม่ (รถจักรยานยนต์ / รถยนต์)

  1. บัตรประชาชนตัวจริง

  2. ใบรับรองแพทย์แสดงว่า ผู้ขอไม่มีโรคประจำตัวอันอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งมีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่ต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่ 

  1. จองคิวผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue 

    วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ ด้วย แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue

  2. วันที่ 1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย(ตาบอดสี สายตากว้าง-ลึก ความไวเท้า)

  3. อบรม 5 ชั่วโมง

  4. ทดสอบข้อเขียน จองคิวสอบขับรถ

  5. วันที่ 2 ทดสอบขับรถ และทำใบอนุญาต

  6. ชำระค่าธรรมเนียมและค่าใบขับขี่รถยนต์ 305 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 205 บาท

การต่อใบขับขี่ออนไลน์ กรมขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการอบรมใบอนุญาติขับรถผ่านระบบ e-Learning ที่เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com โดยไม่ต้องเสียเวลาไปอบรมที่ขนส่ง ประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อเข้ารับการอบรมออนไลน์ได้ โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้

 

ลงทะเบียนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์

  1. ลงทะเบียนในเว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/
  2. ดูวีดีโออบรม และตอบคำถามให้ถูกต้อง 3 ข้อ แล้วกรอกข้อมูลอีกรอบ
  3. กดตรวจสอบสถานะ 

         

    ทั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์แล้วเสร็จสามารถบันทึกภาพหน้าจอเพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกเพื่อเข้ารับการทำใบขับขี่ตามวันเวลาที่นัดหมายต่อไป โดยสามารถทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งได้