เทศกาลหยุดยาวนี้ หลาย ๆ บ้านคงวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน หรือกลับบ้านกันอย่างแน่นอน ซึ่งหลาย ๆ ครั้งเราก็มักจะพาลูก ๆ เดินทางไปกับเราด้วย แน่นอนว่าเราต้องเตรียมความพร้อมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร น้ำ ยา รวมถึงเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างการเดินทาง แต่มีอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “คาร์ซีท” อุปกรณ์เสริมเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ในการเดินทาง บางบ้านอาจจะมีคำถาม ทำไมต้องใช้คาร์ซีท ให้ลูกนั่งตักเอาก็ได้ ? หรือใช้เข็มขัดนิรภัยที่อยู่รถก็ได้แล้ว?
ทำไมต้องใช้คาร์ซีท
คาร์ซีท (Car Seat) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาช่วยป้องกันการบาดเจ็บของเด็กเมื่อเกิดอุบัติเหตุในขณะเดินทางด้วยรถยนต์ คาร์ซีทถูกออกแบบมาเพื่อสรีระของเด็กโดยเฉพาะ ตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 12 ปี ซึ่งมีขนาดและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป หากถามว่าทำไมต้องให้ลูกใช้คาร์ซีทในการเดินทาง นั่นก็เพราะ ระบบความปลอดภัยบนรถยนต์ เช่น เบาะนั่ง เข็มขัดนิรภัย หรือถุงลมนิรภัย เหล่านี้ล้วนออกแบบมาเพื่อสรีระของผู้ใหญ่ทั้งนั้น
ในกรณีที่เด็กแรกเกิด – 12 ปี โดยสารมาบนรถยนต์ด้วยการนั่งบนตักของผู้ปกครอง หรือถูกอุ้มไว้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น เด็กมีสิทธิ์ที่จะถูกเหวี่ยงหลุดออกจากมือ หรือตักของผู้ปกครอง และกระเด็นไปกระแทกส่วนต่าง ๆ ของรถ หรืออาจจะกระเด็นออกนอกรถก็เป็นได้ ซึ่งทำให้เด็กมีอัตราที่มีความเสี่ยงสูง ที่จะได้รับบาดเจ็บ รวมถึงอวัยวะต่าง ๆ จะได้รับความเสียหายตามมา
คาร์ซีทมีกี่ประเภท
สำหรับคาร์ซีทที่วางขายในท้องตลาดปัจจุบัน สามารถแยกประเภทได้ ดังนี้
1. ประเภท Infant Seats คาร์ซีทประเภทนี้ เป็นคาร์ซีทเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดที่มีขนาดเล็ก มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 10 – 15 กิโลกรัม สามารถถือ และเคลื่อนย้ายได้ง่าย
2. ประเภท Convertible Seats เป็นคาร์ซีทที่เน้นติดเสริมไปกับเบาะที่นั่ง ไม่เหมาะกับการถือ หรือเคลื่อนย้ายเหมือนประเภท Infant Seats ใช้กับเด็กที่มีน้ำหนัก 2.3 – 23 กิโลกรัม เป็นคาร์ซีทที่ติดตั้งโดยหันหน้าเข้าเบาะที่นั่ง ซึ่งมีผลการศึกษาว่า การตั้งคาร์ซีทแบบนี้ เด็กจะได้รับอันตรายน้อยลง
3. ประเภท Combination Seats เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กที่โตขึ้นมา หรืออยู่ได้ช่วงอนุบาล จนไปถึงประถม การติดตั้งเบาะชนิดนี้ จะหันหน้าออกจากเบาะ
4. ประเภท Booster Seats เป็นคาร์ซีทที่ไม่มีพนักผิงด้านหลัง มีแค่เบาะนั่งเสริม เพื่อยกให้สรีระของเด็กใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้พอดีตัว เหมาะสำหรับเด็กอายุ 8 – 12 ปี
ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการใช้คาร์ซีท
- ควรเลือกซื้อคาร์ซีทที่ผลิตใหม่ ไม่ควรซื้อคาร์ซีทมือสอง เพื่อป้องกันความเสื่อมสภาพของคาร์ซีท และเลือกใช้ให้เหมาะสมกับช่วงอายุ และน้ำหนักของลูกน้อย
- มั่นใจว่าติดตั้งซีทคาร์อย่างแน่นหนา และติดตั้งในห้องโดยสารด้านหลัง หากลูกน้อยอายุน้อยกว่าสองปี ควรติดตั้งคาร์ซีทหันเข้าเบาะที่นั่ง
- ไม่ควรใช้คาร์ซีทประเภทที่เคลื่อนย้ายได้ วางบนวัตถุที่ไม่มั่นคง เช่น วางบนรถเข็นในห้างสรรพสินค้า เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะหล่นลงมาได้
นอกจาการใช้คาร์ซีทเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยแล้ว ผู้ขับขี่ก็ควรขับขี่ให้ปลอดภัย ตามกฎจราจร ป้องกันอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อหยุดยาวนี้ ปลอดภัยทั้งลูกน้อย และทั้งครอบครัว
ขอบคุณที่มาความรู้
- enfababy