หน้าแรก / บริการอื่นๆ / แอร์รถยนต์เย็นฉ่ำ รับหน้าร้อน
บริการอื่นๆ
แอร์รถยนต์เย็นฉ่ำ รับหน้าร้อน

การดูแลรักษาแอร์รถในหน้าร้อน : ก่อนใช้งาน

ก่อนจะเปิดใช้งานแอร์ควรตรวจเช็คอุปกรณ์ให้ดีเสียก่อน ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ชำรุดจุดที่ควรตรวจสอบมีดังนี้

  • เช็คสายพานคอมเพรสเซอร์แอร์รถยนต์ว่าอยู่ในสภาพที่ไม่แตกหักหรือฉีกขาด หากพบว่าอยู่ในสภาพที่ชำรุด ให้ทำการเปลี่ยนทันทีโดยการไปศูนย์บริการ อู่ซ่อมรถ หรือสามารถเปลี่ยนได้ด้วยตัวเองก็ได้ โดยสายพานแอร์สามารถหาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์รถทั่วไป
  • เช็คที่น้ำยาแอร์ แอร์ โดยดูได้ที่แผงกรองแอร์ที่อยู่ในบริเวณแผงระบายความร้อนทางด้านหน้ารถ หรือที่เรียกว่า Dryer ตรวจสอบระดับของน้ำยา โดยมองผ่านกระจกใสว่ามีองอากาศหรือเปล่า ถ้าพบแสดงว่าน้ำยาแอร์เริ่มน้อย แต่ถ้ากระจกใสแสดงว่าน้ำยาแอร์ยังเหลืออยู่มาก ควรเติมให้อยู่ในระดับพอดี ๆ หากเติมมากไปอาจทำให้แอร์พังได้ ซึ่งขั้นตอนการเติมน้ำยาแอร์จะมีวิธีการหลายขั้นตอนหน่อย หากไม่เข้าใจสามารถดูได้ในคู่มือหรือตามลิ้งค์ที่เราแนบมานี้ค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วควรเติมน้ำยาแอร์ทุก ๆ 2 ปี
  • เช็คแผงกรองแอร์ ซึ่งโดยปกติเมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะมีฝุ่นละอองมาเกาะอยู่ทำให้อุดตัน ส่งผลให้แอร์กระจายความเย็นออกมาได้ไม่มากเท่าที่ควร ควรตรวจสอบและนำออกมาทำความสะอาดเป็นระยะ
  • การจอดรถกลางแดดเป็นเวลานานๆ ส่งผลให้แอร์ทำงานหนักได้ เพราะกว่าแอร์จะเย็นต้องใช้เวลานาน ควรเปิดประตูรถทิ้งไว้สักพักก่อนใช้งาน เพื่อให้อากาศภายในได้ถ่ายเทความร้อนออกมา หรือเปิดหน้าต่างและปรับพัดลมแอร์สูงสุดให้ดันอากาศร้อนออกจากรถ เพื่อช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก และช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย
  • ตรวจดูสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ว่าอยู่ในลักษณะใด เปิดหรือปิด ถ้าหากเปิดอยู่ให้กดปิดเสียก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ท

 

ปรับเลือกอุณหภูมิแอร์ให้เย็นเท่าที่รู้สึกสบาย

  • หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เปิดพัดลมแอร์ในระดับแรงสุดเพื่อไล่ลมออกจากช่องปรับอากาศและทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีแล้วค่อยเปิดจากนั้นจึงเปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ปุ่ม A/C ไปที่ความเย็นสูงสุด แล้วค่อยลดระดับพัดลมลง พร้อมลดระดับความเย็นลงให้สัมพันธ์กันตามอุณหภูมิที่ต้องการ
  • เลือกปรับอุณหภูมิให้เย็นที่เท่าที่รู้สึกสบาย เพราะเปิดให้เย็นมากไปก็ทำให้สิ้นเปลืองและทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่ตลอดเวลา หากรู้สึกร้อนมาก ๆ ให้ทำการไล่ความร้อนออกไปก่อนแล้วค่อยทำการเร่งความเย็น
  • ปรับเลือกอุณหภูมิให้เย็นเท่าที่รู้สึกสบาย หรือเย็นเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เย็นมากไปก็ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น ถ้าคุณมีรถเก่าหน่อย เลือกตำแหน่งความเย็นที่ชอบเอาไว้เป็นประจำ ยกเว้นเมื่ออากาศภายนอกเย็นลง เช่น ฝนตก อาจลดความเย็นลงมาให้เหมาะอีกที ส่วนรถรุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบผสมอากาศอัตโนมัติอยู่แล้วไม่ต้องปรับอะไร
  • ควรเช็คดูให้ดีว่ากระจกทั้งสี่บานได้ปิดสนิทหรือไม่ขณะที่รถกำลังวิ่ง เพราะถ้าปิดไม่สนิท การเปิดกระจกขับรถ จะทำให้ฝุ่นเข้าไปอุดตันในตู้แอร์ได้เร็วขึ้น และทำให้แอร์ไม่มีความเย็นได้เช่นกัน แต่ถ้าจำเป็นที่จะต้องเปิดกระจก ก็ให้ปิดช่องแอร์ที่คอนโซลให้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าไป