1. ทำได้ ทำทันที
ถ้าคุณว่างจากภารกิจต่างๆ เมื่อไหร่ และรถของคุณก็ยังเลอะคราบแป้งอยู่อย่างนั้น เราขอแนะนำให้คุณล้างรถทันที เพราะว่าคราบน้ำ คราบแป้ง คราบหินปูน เมื่อแห้งแล้วจะเป็นคราบฝังลึกติดกับสีรถ กระจกรถ หรือเกาะจนเป็นคราบหินปูน เพราะความด่างของแป้งดินสอพอง ขัดเท่าไหร่ก็ขัดไม่ออก
2. ผ้าเช็ดรถ
ผ้าเช็ดรถ … ทางที่ดี ไม่ควรใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดรถ เพื่อสีของรถที่เงางาม และไม่เป็นรอยขนแมวตามตัวถังรถ ควรเลือกผ้าดีๆ หน่อย เช่น ผ้าชามัวร์ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ สำหรับเช็ดรถ ซึ่งผ้าชามัวร์มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้เป็นอย่างดี และผ้าไมโครไฟเบอร์ มีเส้นใยที่สามารถดูดซึมฝุ่นละอองและคราบน้ำ ได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่นๆ
3. แชมพูล้างรถ
แชมพูล้างรถ จะช่วยให้คุณล้างรถได้อย่างเบาแรงมากขึ้น ในการชะล้างสิ่งสกปรกออกจากตัวรถ ยิ่งแชมพูบางประเภทซึ่งมีผสม Wax เข้าไปด้วย ก็จะประหยัดเวลาเคลือบเงาสีรถไปได้ในตัว
4. ยาขัดรถ
ยาขัดรถที่ดี ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้สีของรถ ดูเงางามมากขึ้น ใช้ยาขัดสีรถ ป้องกันคราบ และทำความสะอาดผิวแลคเกอร์ เพื่อให้รถดูเงางามสะอาดขึ้น ซึ่งก็มีขายกันตั้งแต่กระป๋องละหลักร้อย ไปจนถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของยาขัดรถนั้นๆ พร้อมอาจจะใช้ดินน้ำมันขัดสีรถร่วมด้วยก็ได้
5. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชู บางคนอาจจะงงว่า เอามาใช้ทำอะไร? น้ำส้มสายชู ไว้ใช้ในกรณีที่คุณล้างรถแล้ว ยังมีคราบแป้งและคราบดินสอพองหลงเหลืออยู่ ให้ลองใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ ชุบผ้าแล้วค่อยๆ เช็ดตรงจุดที่ยังมีคราบอยู่ หากคราบจางหรือหายไปแล้วก็ต้องน้ำสะอาดล้างตรงจุดนั้นอีกครั้ง เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ หากทิ้งไว้นานจะกัดสีรถได้
แต่ถ้าหากคุณไม่มีเวลาจริงๆ ก็ขับรถเข้าคาร์แคร์ ล้างรถ ขัด-เคลือบสี ไปเลยก็ได้ ค่าใช้จ่ายก็จะเริ่มตั้งแต่หลักร้อย ถึงหลายพันบาท แต่ถ้าคุณอยากประหยัดเงินส่วนนี้ ก็ลองทำตาม 5 วิธี ล้างคราบแป้งติดรถ ก่อนในเบื้องต้นนะคะ
ขอบคุณที่มา : carro