3 Check list ก่อนรับรถคันใหม่

รถยนต์ เป็นยานพาหนะที่ใครหลาย ๆ คนต้องการมี เพื่อเสริมสร้างความสะดวกสบายที่มากขึ้น และมีการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา แต่ก่อนที่รถยนต์จะมาถึงมือเรานั้น มีขั้นตอนกระบวนการหลายขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผลิต สู่การเคลื่อนย้ายรถออกจากโรงงานที่ผลิต การเคลื่อนย้ายเข้าศูนย์โชว์รูม จนถึงกระบวนสุดท้ายการส่งมอบรถให้ผู้ใช้งาน ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่เราจะรับมอบรถยนต์นั้น เราควรตรวจสอบรถยนต์ของเราเองแต่ ไม่ใช่แค่ตรวจด้วยตามองหา รอยรอบคันเท่านั้นนะ ยังมีสิ่งที่ควรทำมากกว่านี้ซึ่งน้องกันเองจะพาไปตรวจสอบโดย ใช้ Checklist ทั้ง 3 ข้อ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1.Check ภายนอกรถยนต์

การที่เราตรวจสอบภายนอกรถยนต์ก็เพื่อให้เห็นภาพรวมโดยรอบ และความพร้อมของรถ ในด้านต่าง ๆ ดังนั้นการตรวจเช็กภายนอกรถยนต์ มีดังนี้

รอยข่วน และรอยสีรอบตัวรถยนต์
ตรวจสอบสีของรถยนต์ว่าสีมีความสม่ำเสมอ ไม่มีรอยตำหนิหรือรอยแตกของสีบนตัวรถ และรอยขีดข่วนที่ไม่เหมือนกันบนพื้นผิวต่าง ๆ ของรถยนต์

กระจกรถยนต์
ตรวจสอบกระจกทุกด้านของรถยนต์ว่าไม่มีรอยร้าวหรือรอยขีดข่วน รวมถึงตรวจสอบว่ากระจกมีการทำงานได้อย่างถูกต้อง เช่น การเคลื่อนที่ขึ้นลงหรือเปิด-ปิดกระจกได้อย่างสมบูรณ์

ล้อ และยางรถยนต์
ตรวจสอบสภาพของล้อว่าไม่มีรอยเกาะหรือบุบที่เป็นลักษณะที่ผิดปกติ และตรวจสอบสภาพของยางรถยนต์ว่าไม่มีรอยซีด หรือรอยขุดของยาง ยางมีความลึกเหมาะสม และสภาพเรียบเนียน

ระบบไฟส่องสว่าง
ตรวจสอบการทำงานของระบบไฟทั้งหน้า และไฟท้ายของตัวรถ ว่ามีการทำงานได้อย่างสมบูรณ์ หรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบไฟเลี้ยว และไฟเบรกของรถยนต์ด้วย

การตรวจสอบส่วนประกอบอื่น ๆ
เช่น ประตู หน้าต่าง และช่องระบายอากาศ มีการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีรอยร้าว และตรวจสอบตัวถัง หรือส่วนหลังของรถยนต์ว่ามีการชำรุด หรือความเสียหายใดที่เกิดขึ้นหรือไม่

2.Check ภายในรถยนต์

การตรวจสอบภายในรถยนต์ เพื่อความพร้อม ความมั่นใจในคุณภาพ และสภาพของการใช้งาน มีการตรวจสอบเป็นดังนี้

เบาะและผ้าคลุมเบาะ
ตรวจสอบสภาพของเบาะ และผ้าคลุมเบาะว่าไม่มีรอยร้าวหรือรอยแตกของผ้าคลุม รวมถึงตรวจสอบว่าเบาะมีการรองรับที่สม่ำเสมอ และสามารถปรับเอนได้อย่างเหมาะสม

ระบบเครื่องเสียง
ทดสอบเปิดเครื่องเสียง มีเสียงคมชัดและไม่มีเสียงอื่น ๆ แทรกเข้ามา ตรวจสอบระบบลำโพง และระบบควบคุมเสียงต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้อย่างมีความสุข

และตรวจสอบการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์ Bluetooth ในรถยนต์ เช่น ลองเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ

ระบบปรับอากาศ
เปิดแอร์เพื่อทดสอบอุณหภูมิความเย็น ว่ามีลมเย็นที่ถูกต้องตามมาตรฐาน และสามารถทำความเย็นได้ตามที่ปรับระดับตามที่เลือกไว้หรือไม่

ระบบความปลอดภัย
ตรวจสอบระบบความปลอดภัยในรถยนต์ เช่น ระบบเบรก, ระบบล็อกประตู, ระบบล็อกหน้าต่าง และเข็มขัดนิรภัย ว่าสามารถใช้งานได้จริง

ห้องส่วนบุคคล
ตรวจสอบสภาพของห้องส่วนบุคคลในรถยนต์ เช่น การทำงานของหลอดไฟในห้องโดยสาร , ลิ้นชักเปิดดึงออกมาใช้งานได้ไหม หรือที่เสียบสายชาร์จมือถือใช้งานได้หรือเปล่า เป็นต้น

3.Check ตรวจสอบเอกสาร

ซึ่งการเช็กเอกสารเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะทำให้เรามั่นใจได้ว่า ขั้นตอนกระบวนการทุกอย่างที่เราทำถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย และเช็กให้ชัวร์ถึงสิทธิความมั่นใจในการใช้งานในอนาคต ดังนั้น Check เอกสาร ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องไม่ควรพลาด ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เล่มทะเบียนรถยนต์
ตรวจสอบว่าชื่อ ที่อยู่ถูกต้องตามที่ได้ลงทะเบียนไป และเลขตัวถังที่ระบุ ตรงกับเลขตัวถังที่หรือเปล่า

หนังสือรับรองการจดทะเบียน
ตรวจสอบว่าเลขทะเบียนและรายละเอียดอื่น ๆ เช่น สีรถยนต์, จำนวนที่นั่ง ถูกต้องตามที่ได้สั่งซื้อ

ใบเสร็จหรือใบแจ้งหนี้
ตรวจสอบความถูกต้องว่าราคาที่ระบุในใบเสร็จหรือใบแจ้งหนี้ตรงกับราคาที่ได้ตกลงกับผู้ขาย

สัญญาซื้อขาย
ตรวจสอบสัญญาซื้อขายรถยนต์เพื่อให้แน่ใจว่าเงื่อนไข และรายละเอียดที่ระบุถูกต้อง รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการรับมอบรถยนต์ และระยะเวลาการรับประกัน

เอกสารอื่น ๆ
ควรตรวจสอบว่าคุณได้รับเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น รายการซ่อมบำรุง, คู่มือการใช้งาน, และเอกสารรับประกันอื่น ๆ ตามที่ผู้ขายหรือศูนย์บริการต้องมอบให้

ประกันภัยและวารันตีเดิม
ตรวจสอบใบประกันภัยรถยนต์เพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ได้รับการประกันภัยอย่างถูกต้อง และคุณได้เข้าใจเงื่อนไขการใช้ประกันภัยหรือเปล่า และที่สำคัญหากมีการติดตั้งชุดตกแต่งเพิ่มเติม ควรถามศูนย์ที่ขายรถยนต์ให้กับเราว่าแจ้งอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมกับประกันให้หรือยัง หรือเพื่อความแน่ใจ ผู้ใช้งานรถสามารถโทรถามกับบริษัทโดยตรงว่าศูนย์แจ้งอุปกรณ์ตกแต่งให้หรือไม่ ทวนอุปกรณ์ตกแต่งอีกครั้งว่ามีอะไรบ้าง

ถ้าเป็นเรื่องวารันตี หากรถยนต์คันที่จะซื้อวารันตีหมด เนื่องจากรถอาจจะมีอายุเยอะแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีวารันตี แต่สามารทำกับ AsiaCare Warranty หากรถยนต์คันดังกล่าวอายุยังไม่เกิน 10 ปี หรือ เลขไมล์ไม่เกิน 200,000 กม. ค่าเบี้ยเริ่มต้นที่ 5,900/ปี

ขอบคุณที่มาความรู้เรื่องเช็กลิส : proprakan