หนาวนี้ ควรดูแลรถอย่างไรให้พร้อมใช้งาน

            หน้าหนาวนอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้วยังเป็นฤดูกาลที่เหมาะแก่การขับรถเที่ยวอีกด้วย แต่ฤดูหนาวอาจไม่ได้เป็นมิตรกับรถยนต์อย่างที่คิด เพราะแม้ความหนาวจะไม่มีผลกระทบกับเครื่องยนต์มากเท่าไร แต่ความชื้นที่มาพร้อมกับอากาศหนาวก็อาจส่งผลถึงประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ระบบต่าง ๆ และส่งผลต่อการขับขี่ได้ ดังนั้นการดูแลรถอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้โตโยต้า ลีสซิ่งจึงมีวิธีการดูแลรถหน้าหนาวอย่างไรให้พร้อมใช้งานมาฝากกัน

การดูแลเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เป็นจุดที่ต้องใส่ใจเป็นอันดับแรก ๆ สำหรับการดูแลรถหน้าหนาว เพราะถึงแม้อุณหภูมิของเมืองไทยจะไม่ได้ส่งผลต่อเครื่องยนต์เท่าไร แต่หากชะล่าใจก็อาจมีปัญหาเรื่องการสตาร์ทรถหรือเครื่องยนต์กระตุกจากระบบเผาไหม้ทำงานไม่เต็มที่ได้ จึงควรสตาร์ทรถทิ้งไว้ประมาณ 5 – 10 นาทีก่อนจะออกเดินทาง รวมถึงหมั่นตรวจเช็กและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอยู่เสมอ

การดูแลระบบไล่ฝ้า
ปกติแล้วอากาศเมืองไทยอาจไม่ค่อยได้ใช้งานระบบไล่ฝ้าเท่าไรนัก แต่ในหน้าหนาวระบบไล่ฝ้าถือว่ามีความสำคัญอย่างมากเพราะช่วยทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น โดยการเช็กระบบไล่ฝ้า ทำได้โดยการกดปุ่มเปิดระบบไล่ฝ้าทิ้งไว้สักพัก จากนั้นให้แตะที่กระจกดูว่ามีความร้อนขึ้นหรือไม่ หากกระจกร้อนขึ้นก็แสดงว่าระบบไล่ฝ้ายังทำงานได้ดีอยู่

การดูแลแบตเตอรี่
อากาศหนาวทำให้แบตเตอรี่เย็นจนอาจส่งผลต่อการสตาร์ทเครื่องได้ ซึ่งการดูแลรถหน้าหนาวที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือการเช็กสภาพแบตเตอรี่และเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้พร้อมใช้งานเสมอ ที่สำคัญอย่าลืมตรวจเช็กขั้วแบตเตอรี่ว่าหลวมหรือมีขี้เกลือเกาะอยู่ด้วยหรือไม่

การดูแลยางรถยนต์
ความเย็นอาจทำให้ความดันลมยางลดลง ดังนั้นอย่าลืมตรวจเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอและเติมลมยางให้เหมาะสมกับการดันลมยางรถที่ใช้งานอยู่ ซึ่งการดูแลรถวิธีนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ได้ และยังทำให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย

การดูแลช่วงล่าง
อีกหนึ่งการดูแลรถในช่วงหน้าหนาวที่มองข้ามไม่ได้ เพราะในช่วงนี้หลายคนอาจวางแผนขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงต้องเอาใจใส่ช่วงล่างของรถมากเป็นพิเศษ ด้วยการนำรถไปตรวจเช็กที่อู่หรือเข้าศูนย์เพื่อความมั่นใจก่อนใช้งานในช่วงหน้าหนาว
นอกจากการดูแลรถส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว อย่าลืมเช็กระบบไฟฟ้า ระบบเบรก และอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยด้วย เพราะไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไร การตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้งานตามระยะเวลาที่เหมาะสมก็ช่วยสร้างความมั่นใจในการขับขี่ได้มากขึ้น

ขอบคุณที่มาความรู้ : tlt news