หน้าแรก / บริการอื่นๆ / ดูแลรถ Eco car อย่างไรให้ใช้งานได้นานขึ้น !
บริการอื่นๆ
ดูแลรถ Eco car อย่างไรให้ใช้งานได้นานขึ้น !

เอาใจคนรักการประหยัด และการใช้รถเล็ก

หากจะเลือกใช้รถ Eco car ที่ขึ้นชื่อเรื่องประหยัดน้ำมันแล้ว หากรู้วิธีการดูแลรักษารถเพื่อยืดระยะเวลาในการใช้งาน และยังไม่ต้องเสียค่าบำรุงมากเกินไปอีกด้วย !

 

ทำความรู้จักรถ Eco car คืออะไร ?

ก่อนที่จะไปรู้วิธีการดูแลรักษา Eco car หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความหมายของรถ Eco car เราจะพาทุกคนมารู้จักกันสักหน่อยดีกว่าค่ะ Eco car มาจากศัพท์คำว่า Ecology Car ความหมายคือรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถ Eco car จึงเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกระทัดรัด จุดเด่นอยู่ที่ความประหยัดน้ำมันโดยมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร หรือน้ำมัน 1 ลิตร รถ Eco car จะสามารถวิ่งได้ระยะทาง 20 กิโลเมตรเลยทีเดียว และที่สำคัญ คือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100  กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตรเท่านั้น

 

 

วิธีดูแลรถ Eco car ให้ประหยัดยิ่งกว่าเดิม !

เบากว่าก็ประหยัดได้มากกว่า

นี่ไม่ใช่สโลแกนโฆษณา แต่คือวิธีการที่จะทำให้รถของคุณได้สลัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นทิ้งไปและประหยัดเงินในกระเป๋า พร้อม ๆ กับดูแลรถได้ดีมากขึ้น ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกได้ระบุเอาไว้ว่าไม่ควรบรรทุกน้ำหนักเกินที่ระบุไว้ ซึ่งในแต่ละคันจะมีอัตราการบรรทุกบอกไว้ เพราะหากบรรทุกน้ำหนักเกินจะทำให้เครื่องยนต์ใช้น้ำมันมากขึ้น และยังมีผลต่อการสึกหรอสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ขนาดเล็กอย่างรถ Eco car การแบกน้ำหนักไว้บนรถจะยิ่งเพิ่มอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงมากขึ้น

 

 

ลมยางตึงไปก็ไม่ได้ หย่อนไปก็ไม่ดี 

 ลมยาง คือ สิ่งที่เดินทางสายกลางไว้ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเดินทางเมื่อไหร่การตรวจวัดลมยางอยู่เสมอจะช่วยทำให้คุณปลอดภัยในการเดินทาง ช่วยให้รถยนต์ไม่ชำรุดเสียหาย และช่วยให้ประหยัดเงินได้ เพราะถ้าลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้หน้ายางมีความเสียดสีมาก จนทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมาก แต่ถ้าเติมลมยางแข็งเกินไปจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่ส่งผลให้หน้ายางเสียดสีกับพื้นถนนน้อยเกินไป หรืออาจทำให้ยางเกิดระเบิดได้ เพราเพื่อการดูแลรถ Eco car ลมยางสำคัญต่อการดูแลทั้งรถและตัวผู้ขับขี่เองอย่างมาก

 

 

จอดรถนาน ดับเครื่องไว้ก่อนดีกว่า

การปล่อยให้เครื่องยนต์รถติดเครื่องทิ้งไว้โดยไม่เคลื่อนที่ตั้งแต่ 3-4 นาทีขึ้นไป จะทำให้เครื่องร้อนจัด และยังกินเชื้อเพลิง เพื่อประหยัดมากขึ้นจึงควรดับเครื่องไว้ดีกว่า และยังควรใช้เครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็นการใช้เครื่องปรับอากาศทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น และจะมีความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 10% และน้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมดซึ่งอาจหลงเหลืออยู่ ในกระบอกสูบจะเป็นตัวการทำให้เครื่องยนต์สึกหรออีกด้วย

 

 

ขับรถด้วยความไม่ประมาท 

ขับรถเร็วในการใช้รถทางไกล จะทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้นทั้งที่ไม่มีความจำเป็น ในกรณีที่ท่านขับรถที่มีความเร็ว 80 กม./ชม. จะประหยัดน้ำมันได้ถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์ และไม่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็สึกหรอมากเกินไปได้อีกด้วย 

ขอบคุณที่มาเนื้อหา : 724