1. สตาร์ท เครื่องยนต์ ทุกๆ 3 วัน เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
สำหรับรถที่จอดอยู่กับที่หลายๆ วัน ควรมีการสตาร์ทเครื่อง รถยนต์ ทุกๆ 3 วันต่อ 1 ครั้ง และสตาร์ททิ้งไว้เป็นเวลาอย่างน้อยประมาณ 10 -15 นาที เพื่อเป็นการรักษาอายุแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อม เนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์ ต้องมีการกระตุ้นไฟเข้าไปหล่อเลี้ยงระบบไฟอยู่สม่ำเสมอ
2. ไม่ควรใส่เบรคมือไว้ตลอดเมื่อจอดเป็นเวลานาน
สำหรับบางคน ส่วนใหญ่จอดรถด้วยความเคยชิน และมีการดึงเบรคมือทุกครั้งเมื่อจอดรถที่บ้าน ซึ่งสำหรับรถที่จอดเป็นเวลานานนั้น ไม่ควรใส่เบรคมือไว้ตลอด เนื่องจากในรถหลายๆ รุ่น การทำงานของเบรคมือจะมีลักษณะเป็นกลไกของลวดสลิงไปห้ามล็อคเบรคไว้ และหากมีความชื้นสะสม อาจจะทำให้เกิดสนิม ซึ่งทำให้เกิดอาการเบรคติดได้ และเพื่อเป็นการป้องกันการลืมดึงเบรคมือลงอีกด้วย ดังนั้นหากต้องจอดนาน ควรจะใช้วิธีการเข้าเกียร์ Park หรือตัว P จะเป็นวิธีการที่ดีกว่า
3. เช็ดทำความสะอาดห้องโดยสาร ให้พร้อมใช้งาน
ควรเช็ดทำความสะอาดภายในห้องโดยสารให้สะอาด หลังจากการใช้งานครั้งสุดท้ายก่อนจอดยาว เนื่องจากเชื้อโรคหลายๆ อย่าง อาจติดเข้ามาในรถเราได้จากเสื้อผ้า เหงื่อ เศษขยะและอาหารที่ตกหล่นอยู่ในรถ หรือการสัมผัสในบริเวณต่างๆ ซึ่งทำให้เชื้อรา หรือแบคทีเรียนั้นเจริญเติบโตได้ดี และสามารถส่งผลต่อสุขภาพของเราได้อีกด้วย
4. ขยับรถเดินหน้า - ถอยหลัง เพื่อป้องกันยางเสื่อม
หากต้องรถจอดรถอยู่กับที่เดิม เป็นระยะเวลานานๆ ไม่ขยับรถออกจากบ้านเลยมากกว่า 1 อาทิตย์ ควรจะสตาร์ทรถยนต์ และขยับรถให้เคลื่อนที่ เดินหน้า และถอยหลัง และควรเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติ เป็นการถนอมไม่ให้ยางถูกกดทับ เสียรูป เพื่อป้องกันโครงสร้างของยางรถยนต์เสื่อมสภาพ
5. ควรจอดรถในที่ร่ม และใช้ผ้าคลุมรถ
การจอดรถ ควรจอดรถในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อถนอมสีของรถ ชิ้นส่วนพลาสติก และยางขอบประตูต่างๆ ให้คงอยู่ในสภาพดี ไม่ควรจอดรถตากแดดเพราะจะส่งผลต่ออุปกรณ์ภายในรถ และแพงวงจรหลายๆ อย่าง อีกทั้งยังควรใช้ผ้าคลุมรถเพื่อป้องกันฝุ่น และสิ่งสกปรกจากภายนอกด้วย