1. เอกสารต่าง ๆ ประจำรถ
เล่มทะเบียนรถ สามารถบอกข้อมูลต่ำงๆของรถได้เช่น
• รายชื่อผู้ถือครองรถ และการเปลี่ยนมือ ผ่านการครอบครองมากี่คน
• วัน/เดือน/ปี ที่จดทะเบียน
• เลขตัวถัง เลขเครื่อง จะต้องตรงกัน
• ภาษีรถยนต์หมดเดือนไหน
• ประวัติการเปลี่ยนสี
• เปลี่ยนชนิดเครื่องยนต์ เช่น มีการวางเครื่องยนต์ใหม่หรือไม่
• การดัดแปลงอื่นๆ

เอกสารอื่นๆ เช่น
• บันทึกการเข้าศูนย์บริการ สามารถเช็ค ประวัติการซ่อม แนะนำให้โทรเช็ค
กับศูนย์บริกำรของรถยี่ห้อนั้น เพื่อเช็คว่าเลขไมล์ที่บันทึกไว้ตอนเข้ำ
ศูนย์บริการตรงกับเลขหน้าปัดหรือไม่ รวมถึงเช็คประวัติอื่นๆ แต่กรณีนี้ ถ้าหากรถคันนั้นไม่เคยเข้ำศูนย์บริการเลย จะไม่มีประวัติ
• กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และ พรบ. ว่าเหลืออีกกี่เดือน

2. โครงสร้างรถและสภาพตัวถังภายนอก
เช็คสภาพรถรอบคันว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น ความสม่ำเสมอของสีรถ หากมีร่องรอยการซ่อมแซม ทำสี และรอยการขันน๊อต ก็อาจตั้งสันนิษฐานได้เลยว่ารถนั้นเคย ผ่านการชนไม่น้อยก็หนักมาก่อน จึงต้องมีการซ่อมแซมนั่นเอง นอกจากนั้นควรตรวจสอบระบบไฟหน้า ไฟหลัง และ ไฟตัดหมอก ว่าทำงานได้ปกติดีหรือไม่ หากไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ควรต่อรองราคาลงไปอีก

3. สภาพภายในห้องโดยสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ
เป็นส่วนที่เราจะรู้ได้เลยว่าเจ้าของรถคนเก่ามีการดูแลรักษามากน้อยเพียงใด โดยให้สังเกตการทำงานหรือสภาพอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร เช่น
• พวงมาลัย มีรอยขีดข่วน รอยเล็บจิกหนัง หรือไม่
• หน้ากากแอร์ มีรอยแตกหักหรือไม่ ปรับทิศทางโซนแอร์ได้ตามปกติหรือ
เปล่า
• แอร์เย็นไหม ทำงานได้ปกติหรือไม่
• แผงคอนโซล ว่ามีร่องรอยการแตกร้าวหรือไม่ รถบางรุ่นเช่น Camry 2007
จะมีปัญหาเรื่องคอนโซลเหนียว
• ขอบยางประตู เสื่อมแล้วหรือยัง ถ้าเสื่อมจะมีลักษณะแบน ไม่คืนตัว
และจะส่งผลให้เสียงเล็ดรอดเข้ารอบกวนห้องโดยสาร
• เบาะ มีรอยแตก รอยฉีกขาดหรือไม่
• บรรยากาศหรือกลิ่นภายในรถ หากมีกลิ่นอับให้คิดไว้ก่อนได้เลยว่าอาจเคย
ทำน้ำหก วิธีการดูคือให้เปิดพรมปูพื้นออกดูว่ามีรอยชื้นของน้ำหรือไม่
• ในรถบางรุ่นจะมี Sunroof ดูการทำงานว่าปกติหรือไม่ และบริเวณขอบ
ยางหากเสื่อมจะมีปัญหาเวลาฝนตก

4. สภาพห้องเครื่อง
ควรตรวจสอบบริเวณด้านหน้าว่าอะไหล่ชิ้นส่วนไหนมีการเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า หากในห้องเครื่องด้านหน้ามีสีของเหล็กที่ดูแล้วใหม่กว่าด้านข้างตัวเครื่อง สามารถสันนิษฐานได้ว่าเคยชนหนักมาก่อน
ระดับของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง สามารถดึงตัววัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาดูได้หากมีระดับที่ต่ำแสดงว่าเจ้าของเก่าขาดการดูแลรักษาที่ดี รวมทั้งระดับของเหลวอื่น ๆ เช่น น้ำมันเบรค เป็นต้น

5. ทดลองขับ เป็นวิธีที่ดีที่สุด!
• ขณะที่จอดบนที่ราบ รถต้องได้ระนาบ ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
• สตาร์ทรถแล้วต้องนิ่ง เงียบ ไม่มีเสียงแปลก ๆ ไม่มีควันดำ
• ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือกลิ่นไหม้ หลังสตาร์ทรถ
• เข้าเกียร์ง่าย ไม่กระตุก
• เปิดกระจกฟังเสียงช่วงล่าง เวลาผ่านเนินสะดุด หรือพื้นขรุขระ ว่ามีเสียงแปลกๆ
หรือไม่ หากมีเสียงแปลก ๆ ให้สังเกตว่าดังมาจากล้อใด
• ให้ลองสังเกตเวลาเลี้ยวโค้งด้วย ดูความเกาะถนนของยาง ระบบเบรค พวงมาลัย หน้าปัดบอกความเร็ว หากโดยรวมทำงานได้ตามปกติ ก็แปลได้ว่ารถคันนี้สอบผ่านแล้ว

       การซื้อรถยนต์มือสองนั้นคุณไม่สามารถสังเกตแค่ผิวเผิน แต่จำเป็นต้องตรวจสอบรถ แต่ละคันโดยละเอียด ซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือ อาจจะใช้บริการตรวจเช็กที่ได้มาตราฐานช่วยตรวจเช็กให้ ก็สามารถทำได้ 

ขอบคุณที่มา : milework