
ช่วงนี้ฝนตกบ่อย หลายคนต้องขับรถไปเผชิญฝนตก วันนี้แอดมินนำ 5 ข้อ ที่ช่วยให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันช่วงฝนตกหนัก ..
☔️ 1. ยางรถต้องมีดอกลึกพอ
- ดอกยางมีหน้าที่ช่วยรีดน้ำออกจากพื้นถนน เพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการ “เหินน้ำ” (hydroplaning) ซึ่งทำให้รถเสียการควบคุม
- ควรตรวจสอบความลึกของดอกยางอย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 3 มม.
- หากยางเริ่มสึกหรือหมดดอก ควรเปลี่ยนทันที โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝน
⛈️ 2. ใบปัดน้ำฝนต้องใช้งานได้ดี
- ใบปัดน้ำฝนที่แข็งหรือแตกร้าวจะไม่สามารถปัดน้ำออกจากกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทัศนวิสัยแย่ลง
- ควรทดสอบใบปัดน้ำฝนทุกเดือน โดยเปิดใช้งานและสังเกตว่ามีเสียงดังหรือทิ้งรอยน้ำไว้หรือไม่
- การเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อเริ่มมีอาการเสื่อมสภาพ จะช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น
⛈️ 3. เปิดไฟหน้าเมื่อฝนตก
- แม้จะเป็นเวลากลางวัน การเปิดไฟหน้าจะช่วยให้รถของคุณมองเห็นได้ง่ายขึ้นจากรถคันอื่น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อยหรือฝนตกหนัก
- ไฟหน้าช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการมองเห็นและการถูกมองเห็น
- อย่าลืมตรวจสอบว่าไฟหน้าและไฟท้ายทำงานได้ครบทุกดวง และไม่มีคราบน้ำหรือฝุ่นบังแสง
⛈️ 4. ห้ามเบรกกะทันหัน
- ถนนเปียกทำให้แรงเสียดทานลดลง ส่งผลให้ระยะเบรกยาวขึ้นกว่าปกติ
- การเบรกกะทันหันอาจทำให้รถลื่นไถล หรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น และใช้เบรกอย่างนุ่มนวล โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้งหรือขับผ่านแอ่งน้ำ
⛈️ 5. ล้างรถหลังฝนตก
- น้ำฝนมักมีกรดเจือปนจากมลพิษในอากาศ ซึ่งอาจทำลายสีรถหรือทำให้เกิดคราบฝังแน่น
- หากปล่อยไว้นาน อาจเกิดคราบน้ำฝนที่ล้างออกยาก หรือทำให้สีรถหมองลง
- การล้างรถหลังฝนตกช่วยรักษาสภาพรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ และยังช่วยตรวจสอบว่ามีสิ่งสกปรกหรือความเสียหายใด ๆ จากการขับลุยฝนหรือน้ำขัง
..และที่สำคัญอย่าลืมดูแลตัวเอง ระวังไม่สบายกันด้วยนะคะ ^^