“ยางรถยนต์” คือชิ้นส่วนที่มีความสำคัญลำดับต้นๆ ในการขับขี่ เพราะมันคือสิ่งเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนแบบนี้ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ในการตรวจเช็ก “ดอกยาง” ของรถคุณก่อนออกเดินทาง
ดอกยางทำหน้าที่อะไร ??
ยางที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ที่ใช้งานบนท้องถนนทุกคันจะเป็นยางที่มีดอกทั้งสิ้น แตกต่างกันที่ลวดลายและรูปแบบของยางแต่ละยี่ห้อ โดยดอกยางจะมีบทบาทสำคัญในการขับขี่ทางเปียก หรือในช่วงฝนตก ทำหน้าที่รีดน้ำออกเมื่อหน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนที่เปียกและลื่น
คุณสมบัติทั่วไป โดยเฉลี่ยหากรถวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดอกยางจะช่วยรีดน้ำได้ราว 10-15 ลิตรต่อวินาที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของดอกยาง ความลึกของร่องยาง ที่หากยิ่งลึกมากก็จะยิ่งช่วยรีดน้ำได้ดีมากขึ้น
ดอกยางช่วยในการเบรกอย่างไร ??
นอกจากดอกยางจะช่วยรีดน้ำในทางเปียกแล้ว มันยังช่วยลดระยะเบรกของรถได้อีกด้วย โดยจะมีประสิทธิภาพแปรผันไปตามความลึกของร่องยางเช่นเดียวกัน โดยเว็บไซต์ uniroyal-tyres.com มีการทดสอบการเบรกในทางเปียกจากความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจนถึงรถหยุดนิ่
ซึ่งผลปรากฎว่า รถที่ใส่ยางที่มีร่องลึก 8 มิลลิเมตร ใช้ระยะเบรกเพียง 42.3 เมตร ส่วนดอกยางร่องลึก 3 มิลลิเมตรใช้ระยะเบรก 51.8 เมตร และรถที่ร่องของดอกยางลึก 1.6 มิลลิเมตร ใช้ระยะเบรกถึง 60.9 เมตรเลยทีเดียว
ดอกยางควรร่องลึกเท่าใด ??
มาตรฐานยางใหม่ที่ออกจากโรงงาน จะมีความลึกของร่องดอกยางอยู่ที่ 8 มิลลิเมตร ซึ่งในการใช้งานจริงจะมีการสึกหรอของดอกยางไปตามระยะเวลา ซึ่งความลึกของร่องยางที่เหมาะสมในช่วงหน้าร้อนควรอยู่ที 3 มิลลิเมตร แต่หากเป็นช่วงหน้าฝนเช่นนี้ ดอกยางของรถคุณควรจะมีร่องลึก 4 มิลลิเมตรเป็นอย่างน้อย เพื่อความปลอดภั
แหล่งที่มา : https://www.sanook.com/auto/71313/