กลับมาอีกครั้งกับสถานการณ์ที่ต้องระแวดระวังเชื้อโรคต่าง ๆ การใส่หน้ากาก การล้างมื้อ การทำความสะอาดสิ่งของบ่อย ๆ ช่วยป้องกันตัวเอง และ ช่วยให้เราลดความเสี่ยงจากเชื้อ COVID-19 ไปได้มาก แต่สำหรับคนที่ยังต้องใช้รถออกไปทำงาน หรือต้องออกไปจับจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะนำเชื้อไปสัมผัสส่วนต่างๆ ของรถได้ ดังนั้นมาเช็กจุดสัมผัสที่ควรทำความสะอาดก่อนและหลังใช้รถในทุกครั้งกันดีกว่า
4 จุดสัมผัสสำคัญ ต้องทำความสะอาด
1. ที่จับประตู
ทุกครั้งที่มีการใช้รถเราต้องสัมผัสที่จับประตูเพื่อเปิดเข้าออกอย่างแน่นอน ดังนั้นควรทำความสะอาดที่จับประตูทั้งด้านนอกและด้านในทุกครั้ง
2. เกียร์และเบรกมือ
การจะให้รถเคลื่อนตัวออกไป มีความจำเป็นต้องสัมผัสเกียร์โดยตรง เมื่อทำความสะอาดเกียร์อย่าลืมทำความสะอาดเบรกมือที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วย
3. พวงมาลัย
แน่นอนว่าเมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปแล้ว จำเป็นจะต้องควบคุมรถด้วยพวงมาลัย ดังนั้นพวงมาลัยเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องใส่ใจทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม
4. คอนโซล
ระหว่างขับรถบางทีอาจมีความจำเป็นต้องสัมผัสปุ่มต่างๆ เช่น เปิดแอร์ เปิดวิทยุ ดังนั้นแผงคอนโซลจึงต้องใส่ใจทำความสะอาดด้วยเช่นกัน
เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาด
- ผ้าสะอาด – ควรเลือกใช้ผ้าใหม่ที่ไม่ใช้ปะปนกับงานชนิดอื่นๆ
- ขวดสเปรย์ – เลือกขนาดให้พอดีไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป เพื่อความสะดวกในการหยิบจับ และบรรจุน้ำยาได้พอดีกับการใช้งาน
- น้ำยาทำความสะอาด – สามารถใช้แอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ Sodium Hypochlorite มาผสมน้ำเล็กน้อย เท่านี้ก็มีน้ำยากำจัดเชื้อโควิดแล้ว
จุดอื่นๆ ก็ต้องทำความสะอาดเช่นกัน
- เบาะ – ถ้าเป็นเบาะหนังก็สามารถเช็ดได้เลย แต่ถ้าเป็นเบาะผ้าให้สเปรย์ลงที่เบาะก่อนค่อยเช็ด
- กุญแจและปุ่มสตาร์ท – สิ่งที่ต้องสัมผัสอย่างแน่นอนคือกุญแจรถและปุ่มสตาร์ท อย่าลืมทำความสะอาดด้วย
- สายเซฟตี้เบลท์ – เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ต้องรัดเซฟตี้เบลท์ทุกครั้ง เมื่อรัดแล้วก็ต้องทำความสะอาดด้วย
- แผงควบคุมกระจกไฟฟ้า อีกหนึ่งจุดที่ควรทำความสะอาดเพราะถึงแม้ไม่ได้มีการเปิดกระจกระหว่างขับ แต่บางทีอาจจะเอามือไปพาดไว้โดยไม่รู้ตัว
- แผง Touch Screen – เดี๋ยวนี้รถรุ่นใหม่ๆ มักจะมาพร้อมกับจอ Touch Screen ที่ควบคุมความบันเทิงต่างๆ ภายในรถ จุดนี้แหละสัมผัสกันบ่อยๆ เลย ห้ามลืมเช็ดเด็ดขาด
- มือ – คือส่วนสำคัญที่สัมผัสกับทุกจุด ดังนั้นก่อนขึ้นหรือลงรถอย่าลืมใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วย
แหล่งที่มา : https://auto.mthai.com/news/tips/115485.html